วิเคราะห์บอล พรีเมียร์ลีก : ลิเวอร์พูล -vs- แมนฯยู

วันอาทิตย์ที่ 17 ธันวาคม 2566

เวลา : 23.30 น.ราคาบอล : ลิเวอร์พูล ต่อ 1.75(-5)

ผลการพบกันของทั้งสองทีม

06/03/23 ลิเวอร์พูล ชนะ แมนฯยู 7-023/08/22 แมนฯยู ชนะ ลิเวอร์พูล 2-112/07/22 แมนฯยู ชนะ ลิเวอร์พูล 4-0 / (กลาง) กระชับมิตร20/04/22 ลิเวอร์พูล ชนะ แมนฯยู 4-024/10/21 แมนฯยู แพ้ ลิเวอร์พูล 0-514/05/21 แมนฯยู แพ้ ลิเวอร์พูล 2-425/01/21 แมนฯยู ชนะ ลิเวอร์พูล 3-2 / เอฟเอ คัพ18/01/21 ลิเวอร์พูล เสมอ แมนฯยู 0-020/01/20 ลิเวอร์พูล ชนะ แมนฯยู 2-020/10/19 แมนฯยู เสมอ ลิเวอร์พูล 1-1

ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม

ลิเวอร์พูล15/12/23 แพ้ ยูนิอง แซงต์ ชิญัวส์ 1-2 (เยือน) ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก / รอง 0.5 … เสีย09/12/23 ชนะ คริสตัล พาเลซ 2-1 (เยือน) พรีเมียร์ลีก / ต่อ 1.25 … เสียครึ่ง07/12/23 ชนะ เชฟฯยูฯ 2-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก / ต่อ 2 … เจ๊า03/12/23 ชนะ ฟูแล่ม 4-3 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก / ต่อ 1.75 … เสีย01/12/23 ชนะ แอลเอเอสเค ลินซ์ 4-0 (เหย้า) ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก / ต่อ 2.5 … ได้ฟอร์มเกมเหย้าในลีก แข่ง 7 ชนะ 7 เสมอ 0 แพ้ 0 ได้ 21 เสีย 5

แมนฯยู13/12/23 แพ้ บาเยิร์น 0-1 (เหย้า) ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก / รอง 0.25 … เสีย09/12/23 แพ้ บอร์นมัธ 0-3 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก / ต่อ 1 … เสีย07/12/23 ชนะ เชลซี 2-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก / เสมอ … ได้03/12/23 แพ้ นิวคาสเซิ่ล 0-1 (เยือน) พรีเมียร์ลีก / รอง 0.5 … เสีย30/11/23 เสมอ กาลาตาซาราย 3-3 (เยือน) ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก / เสมอ … เจ๊าฟอร์มเกมเยือนในลีก แข่ง 7 ชนะ 4 เสมอ 0 แพ้ 3 ได้ 8 เสีย 7

ฟอร์ม 6 นัดหลังสุดในลีก

ลิเวอร์พูลเหย้า – แข่ง 3 ชนะ 3 เสมอ 0 แพ้ 0 ได้ 10 เสีย 3เยือน – แข่ง 3 ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 0 ได้ 5 เสีย 2

แมนฯยูเหย้า – แข่ง 3 ชนะ 2 เสมอ 0 แพ้ 1 ได้ 3 เสีย 4เยือน – แข่ง 3 ชนะ 2 เสมอ 0 แพ้ 1 ได้ 4 เสีย 1

สภาพทีมล่าสุดของทั้งสองทีม

ลิเวอร์พูล

ลิเวอร์พูล ของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ เพิ่งจะบุกพ่ายให้กับ ยูนิอง แซงต์ ชิญัวส์ 1-2 ในศึก ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา สำหรับความพร้อมของทีมก่อนลงเตะ ไม่มีรายงานตัวเจ็บหรือติดโทษแบนเข้ามาเพิ่มเติม นอกเสียจาก ดิโอโก้ โชต้า, ธิอาโก้ อัลคานตาร่า, สเตฟาน บายเซติช, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน และ โฌแอล มาติป เหล่าบรรดาแข้งเดี้ยงที่ยังไม่หายดี ส่วนในรายของ อเล็กซิส แม็ก อัลลิสเตอร์ ก็น่าจะต้องพักไปก่อนเช่นกัน เพราะมีอาการเจ็บเข่ารบกวนเล็กน้อย คาดว่า คล็อปป์ เตรียมวางหมากในระบบ 4-3-3 โดยมี โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, ดาร์วิน นูนเญซ กับ หลุยส์ ดิอาซ เป็นสามประสานแดนหน้าคอยล่าสกอร์ตามระเบียบ

ตัวแบน : -ตัวเจ็บ/หมดสิทธิ์ :กองหลัง – แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน (8 นัด/1 ประตู), โฌแอล มาติป (10 นัด)กองกลาง – ธิอาโก้ อัลคานตาร่า (-), สเตฟาน บายเซติช (-)กองหน้า – ดิโอโก้ โชต้า (12 นัด/4 ประตู)

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซง เบ็คเกอร์ – เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อิบราฮิม่า โกนาเต้, เฟอร์กิล ฟาน ไดย์ค, คอนสแตนตินอส ซิมิกาส – โดมินิค โซโบซไล, วาตารุ เอนโด, ไรอัน กราเวนเบิร์ช – โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, ดาร์วิน นูนเญซ, หลุยส์ ดิอาซ

แมนฯยู

แมนฯยู ของกุนซือ อีริค เตน ฮาก เพิ่งจะเปิดรังพ่ายให้กับ บาเยิร์น มิวนิค 0-1 ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา สำหรับความพร้อมของทีมวันนี้ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน บรูโน่ แฟร์นานเดส กลางรุกคนสำคัญที่ติดโทษแบนสะสมเหลืองครบโควต้า เช่นเดียวกับ อาหมัด ดิยัลโล่, คาเซมิโร่, คริสเตียน อีริคเซ่น, ไทเรลล์ มาลาเซีย และ ลิซานโดร มาร์ติเนซ ซึ่งแท็คทีมกันเดี้ยงยกแพ็ค คาดว่า เตน ฮาก เตรียมจัดทัพในระบบ 4-3-3 โดยมี อเลฮานโดร การ์นาโช่, ราสมุส ฮอยลุนด์ กับ มาร์คัส แรชฟอร์ด ผนึกกำลังกันล่าตาข่ายในแดนหน้าตามสูตร

ตัวแบน :กองกลาง – บรูโน่ แฟร์นานเดส (16 นัด/3 ประตู)ตัวเจ็บ/หมดสิทธิ์ :กองหลัง – ไทเรลล์ มาลาเซีย (-), ลิซานโดร มาร์ติเนซ (5 นัด)กองกลาง – คาเซมิโร่ (8 นัด 1 ประตู), คริสเตียน อีริคเซ่น (11 นัด/1 ประตู)กองหน้า – อาหมัด ดิยัลโล่ (-), เจดอน ซานโช่ (3 นัด)

แมนฯยู (4-3-3) : อ็องเดร โอนาน่า – อารอน วาน-บิสซาก้า, วิกเตอร์ ลินเดอเลิฟ, ราฟาแอล วาราน, ดิโอโก้ ดาโลต์ – ค๊อบบี้ ไมนู, สกอตต์ แม็กโตมิเนย์, ซอฟยาน อัมราบัต – อเลฮานโดร การ์นาโช่, ราสมุส ฮอยลุนด์, มาร์คัส แรชฟอร์ด

ทรรศนะ

ยังยกให้เจ้าบ้าน ลิเวอร์พูล ดูดีมีทรงแล้วคงจะไม่พลาดสามคะแนนในรังเหย้าตัวเอง แม้ล่าสุดจะปราชัยให้กับ ยูนิอง แซงต์ ชิญัวส์ 1-2 ก็จริง ทว่าพวกเขาโรเตชั่นแทบจะไม่เหลือตัวหลักเลย ฉะนั้นสภาพความพร้อมของทีมชุดใหญ่จัดว่าเต็มสูบ ยิ่งได้บู๊ใน แอนฟิลด์ ยิ่งกุมความได้เปรียบมากกว่าเดิม สวนทางกับทีมเยือน แมนฯยู ที่ยิ่งเล่น ความมั่นใจก็เหมือนจะยิ่งหายไป ซึ่งผลงานตลอด 5 หนท้ายทุกรายการ กำชัยแค่หนเดียวเท่านั้น (เสมอ 1, แพ้ 3) และมีถึงสามครั้งที่ยิงใครไม่ได้อีกด้วย จากทรงนี้มองแล้วยังไงก็ไม่น่ารอดมีแต้มกลับออกไป ดีไม่ดีจะเละอีกต่างหาก เมื่อพิจารณาจากเรตกับภาพรวมของทั้งสองฝ่าย แนะนำอยู่ต่อไม่ต้องรอลงอาญา ฟันธง! จัดเต็ม “หงส์แดง” แรงต่อเนื่อง…!

ต่อ ลิเวอร์พูล 1.75